วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

การพัฒนาตนเอง

การพัฒนาตนเอง

วันนี้พูดถึงเรื่อง ความตรงต่อเวลานะครับ
ผู้ที่ทำอะไรตรงต่อเวลา ผู้ที่มาติดต่อก็ชื่นชม และไม่เสียเวลารอคอย แสดงอุปนิสัยที่ดี และความมีมารยาท แสดงถึงความมีกำลังใจและความเคร่งครัดต่อระเบียบ
ไม่ต้องบอกนะครับว่าความตรงต่อเวลาหมายถึงอะไร งั้นผมจะพูดถึงประเภท ของการตรงต่อเวลา
1.ตรงต่อเวลาเข้าทำงาน และเลิกทำงาน
2.ตรงต่อเวลาเมื่อมีการนัดหมาย
3.ตรงต่อเวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
4.ตรงต่อเวลาที่ตั้งใจสำหรับตัวเอง

การตรงต่อเวลาเป็นการแสดงถึงวินัย การบังคับตัวเอง ความไม่ประมาณและเฉื่อยชา
การตรงต่อเวลายังแสดงถึงอารยธรรมที่เจริญแล้ว

เหตุที่ทำให้เป็นคนไม่ตรงต่อเวลา มัดังนี้
1.ชอบผัดเวลา การทำเช่นนี้บ่อย จะทำให้เสียนิสัยและทำให้เกียจค้านแล้วก็ทำอะไรล่าช้า ไม่ทัน การในที่สุด
2.ไม่เตรียมตัวให้พร้อม เฉื่อยชา
3.ประมาท เห็นว่ายังมีเวลาเหลือ ก็มัวทำอะไรจับจดอยู่
4.นิสัยที่ไม่เคารพต่อระเบียบหรือไม่เกรงใจคนอื่น ไม่แคร์ว่าคนอื่นจะต้องคอยเราอย่างไร

ส่วนการฝึกให้เป็นคนตรงต่อเวลาก็คือ
1.ทำอะไรต้องกระตือรือร้น ทำทันทีไม่ผัดเวลา
2.เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
3.ความไม่ประมาทไม่ทำอะไรจับจด
4.ฝึกเคารพกฏระเบียบและหัดเกรงใจผู้อื่น

ต่ออีกหัวข้อ นะครับ ความเป็นผู้มีความขยันขันแข็ง
คนที่มีนิสัยขยันขันแข็งย่อยจะเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และต่อผู้พบเห็น
ผมขอยกแนวทางนะครับ ไว้เป็นอุบายในการเปลี่ยนนิสัยจากความเกียจคร้าน เป็นคนขยันนะครับ
1.อย่าทำงานหักโหมหรือใจร้อน
2.ปลูกความรักและความสนใจในงาน
3.อย่าย่อท้อต่ออุปสรรค
4.ทำทีละก้าวแต่สม่ำเสมอ
5.รู้จักบังคับใจตนเอง ไม่ปล่อยตัวตามสบาย
6.อย่าเป็นคนโลเล
7.เป็นคนรู้จักคุณค่าของเวลา ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
8.อย่าวิตกกังวลในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
9.มีสมาธิในการทำงาน
10.ฝึกเป็นคนที่มีนิสัย ชอบทำเดี๋ยวนี้
11.มีขวัญและกำลังใจในการทำงาน
12.ฝึกให้เป็นคนมีความกระตือรือร้น

ขอยกหลักศาสนามาพูดหน่อยนะครับ นั้น คือ อิทธิบาท 4 ยึดเป็นแนวทางได้นะครับ
1.ฉันทะ มีความรักในงาน
2.วิริยะ มีความเพียร
3.จิตตะ เอาใจใส่ในงาน
4.วิมังสา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญในผลงาน

คนไทยเรานี้มีทัศนะคติที่ผิด ๆ บางประการอยู่นั้นก็คือ '' การนั่งกินนอนกิน โดยไม่ต้องทำงาน ถือว่าเป็นผู้มีบุญกุศล '' แท้จริงแล้วคนที่นั่งกิน นอนกิน นั้นเป็นผู้กินบุญเก่า ถ้าบุญเก่าหมด
แล้วเขาจะตกอยู่ในฐานะที่ลำบากมากที่เดียวเพราะเขาไม่ทำงาน และทำอะไรไม่เป็น

ความเข้าใจผิดอีกเรื่องก็คือ '' ความสันโดษ '' ท่านไม่ได้สอนว่าความสันโดษ คือ ความเกียจ
คร้าน แต่สอนว่าให้เราพอใจในสิ่งที่เรามี เราหามาได้ โดยสุจริต ฉะนั้น เราจึงต้องทำงานหาราย
ได้เพื่อที่เราจะได้มีกินมีใช้ ไม่ต้องเดือดร้อน หรือไปเบียดเบียนผู้อืน

ลองอ่านดูนะครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คน ลองเอาไปปรับใช้นะครับ
***ข้อมูลจาก หนังสือเรื่องการพัฒนาตนเอง ผู้เขียน คุณ สมิต อาชวนิจกุล ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น