วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550 ทุกคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ต้องรู้

พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550 ทุกคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ต้องรู้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี

มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)

มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔

มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ
ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ
(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

หมวด ๒
พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด
(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้
(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่
(๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
(๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว
(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ
ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่
โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น

มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีมีอำนาจ ร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ที่มา http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1443.msg9206;topicseen

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ต

บริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตนั้นจัดได้ว่าเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ไว้ทั่วทุกมุมโลก คงปฏิเสธไม่ได้สำหรับในปัจจุบันถึงการที่มนุษย์ต้องยอมรับอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต โดยในอินเทอร์เน็ตนั้นได้อำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิตในด้านการบริการในรูปแบบที่แตกต่างกันดังนี

การให้บริการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

การให้บริการทางด้านการหาข้อมูล

การบริการเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ ๆ ที่มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าผ่านระบบเครือข่ายอิเทอร์เน็ต โดยที่ผู้เข้ามาใช้บริการสามารถเข้าไปสัมผัสกับเทคโนโลยีข่าวสารที่เปลี่ยนแปลกทุกชั่วโมง หรือทุก ๆ วัน พร้อมทั้งทำให้ทราบเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงเวลาของเทคโนโลยี

บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยผู้ใช้สามารถทำการค้นหาข้อมูลในด้านต่าง ๆ ได้ตามต้องการ เช่น ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ ข่าวสารทางสังคม ข่าวสารทางด้านการเมือง ข่าวสารทางการปกครอง ข่าวสารทางการศึกษา หรือสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งมีเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลอยู่หลาย ๆ เว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับผู้ใช้ต้องการเข้ามาใช้บริการได้ตามต้องการผู้ใช้สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการค้นหาผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีทั้งบริการข้อมูลทั่วไห ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย หรือคลังข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายเป็นกลุ่ม ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง

อินเทอร์เน็ตได้เก็บรวบรวมข่าวสารต่าง ๆ ไว้อย่างมากหมาย ไว้ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้ามีทั้งข้อมูลทางด้านสื่อ หรือการนำเสนอภาพลักษณ์ ของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐบาล และเอกชน ในปัจจุบันมีการให้ข้อมูลของหน่วยงานผ่านเว็บไซต์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับสังคมได้รับทราบถึง ความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์การ

การให้บริการทางด้านการศึกษา

อินเทอร์เน็ตมีบริการทางด้านการศึกษา เป็นห้องสมุดบนเครือข่าย มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้ ไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชาที่ทำการเปิดสอนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นในสาขาวิชาต่าง ๆ มากมายที่มีการเปิดการเรียนการสอน ในปัจจุบันนี้นักศึกษาเองสามารถที่จะเรียนอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องไปโรงเรียนได้ ด้วยการเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก และยังเข้าไปค้นคว้าหนังสือตำราเรียน ในห้องสมุดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

สถานศึกษาที่เปิดสอนผ่านอินเทอร์เน็ต : http://www.online.ILLINOIS.edu

บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มี หลักสูตรการเรียนทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต โดยหลักสูตรที่เปิดสอนนั้น มีตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนอยู่ที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องไปเข้าเรียนในชั้นเรียน เพียงแค่ผู้เรียนนั้นสมัครลงทะเบียนเรียนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทางมหาวิทยาลัยจะทำการจัดส่งตารางเรียน เอกสารประกอบการเรียนมาให้ โดยที่ผู้เรียนนั้นจะต้องออนไลน์เข้าสู่ อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าเรียนตามวันและเวลาที่กำหนดตามตารางเรียน

บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้น ผู้ใช้สามารถที่จะค้นหาห้องสมุดออนไลน์ต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมากมาย ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ในการที่จะต้องเดินทางไปห้องสมุดเพื่อสืบค้นข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีบริการให้ยืมหนังสือออกจากห้องสมุดได้โดยเข้าไปใช้บริการบนอินเทอร์เน็ต โดยที่ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกหนังสือที่ต้องการออกจากรายการหนังสือของห้องสมุด หลังจากนั้นทางห้องสมุดจะจัดส่งหนังสือให้ยืมถึงบ้านภายในเวลาที่กำหนด โดยการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ มายังผู้ที่ใช้บริการ

การบริการด้านการสื่อสารข้อมูลบนระบบเครืออินเทอร์เน็ตนั้น เป็นสิ่งที่นิยมมากในการใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับด้านต่าง ๆ ด้านการสื่อสารนี้ได้แก่ การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสนทนาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบออนไลน์ (Chat) การให้บริการข่าวสาร บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( Newsgroup or Usenet ) การส่งข้อมูลและการโอนแฟ้มข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย ( Telnet and FTP)

การบริการด้านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail เป็นบริการที่เป็นที่นิยมมากบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถที่จะส่งข้อความไปถึง ผู้อื่นในอินเทอร์เน็ตได้โดยการใช้อีเมล์ ซึ่งสามารถส่งข้อความหรือจดหมายถึงกันโดยใช้เวลาในการส่งเพียงไม่กี่วินาที เพื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย ถึงแม้ระยะทางจะห่างไกลกันเพียงใดก็ตาม ในการส่ง E-mail นั้น เหมือนกับการส่งจดหมายซึ่งจะต้องมีการจ่าหน้าซองถึงผู้รับ แต่เป็นการระบุถึงผู้รับในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเรียกว่า E-mail Address ซึ่งบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีบริการฟรีเมล์มากมาย

การสนทนาออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยโปรแกรม ( Chat )

บริการบนอินเทอร์เน็ตเดิมมีการบริการส่งเฉพาะข้อความ ซึ่งในปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนารูปแบบการใช้อินเทอร์เน็ต ให้ง่ายขึ้นด้วยการคิดค้น World Wide Web ที่แสดงข้อมูลได้ทั้งภาพและตัวอักษรทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นที่สนใจของผู้ใช้ทั่ว ๆ ไป ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ใช้นั้นจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ตาม เพราะว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ต้องใช้คำสั่งคอมพิวเตอร์ที่สลับซับซ้อนในการใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นด้วยการใช้ E-mail หรือ NewGroup การสื่อสารด้วยการพิมพ์โต้ตอบกันเป็นอีกบริการหนึ่งที่มีในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรูปแบบในการสื่อสารด้วยข้อความเราเรียกว่า Chat โดยที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบแบบทันที กับผู้ร่วมสนทนา ซึ่งการสนทนาสามารถทำได้หลาย แบบจะคุยกับเพื่อน หลาย ๆ คนได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน หรือจะคุยเฉพาะในวงของคนรู้จักก็ได้

ภาพแสดง การใช้โปรแกรม PIRC98

หรือการใช้เสียงสนทนากับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ตคล้ายกับการใช้โทรศัพท์ธรรมดา ซึ่งมีข้อแตกต่างกันในการยกหูโทรศัพท์แบบที่ทำกัน เพราะเป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ที่ต้องการสนทนาผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องมีไมโครโฟนที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ไว้สำหรับพูดคุยกับผู้อื่น และมีลำโพงส่งเสียงที่ได้รับจากผู้อื่น การใช้บริการนี้จะเหมือนการใช้โทรศัพท์แต่ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ให้กับองค์การโทรศัพท์ เพราะผู้ใช้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ แต่เป็นการใช้อินเทอร์เน็ตแทนการใช้โทรศัพท์

News Group หรือ Usenet เป็นบริการที่เป็นเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ใช้อนิเทอร์เน็ตทั่วโลกสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองกับผู้อื่น โดยมีการจัดผู้ใช้หรือ Usenet ตามกลุ่ม ซึ่งเรียกว่า กลุ่มข่าว ซึ่งจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลในหัวข้อต่าง ๆ เช่น เรื่องของการตกแต่งบ้าน เรื่องรถ การแสดงความคิดต่อเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม การให้ความคิดต่อการศึกษา เป็นต้น ในปัจจุบันนี้มีกลุ่มข่าวสารเกิดขึ้นบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากกว่า 15,000 กลุ่มข่าวสาร ซึ่งมีตั้งแต่กลุ่มข่าวสารที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี จนกระทั่งไปถึงเรื่องของการดูแลรักษาตนเอง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มข่าวสารนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นของแต่ละคนสู่สาธารณชน และเป็นการให้ความรู้สึกในการที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งอื่นสิ่งใด อันจะนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขในเรื่องนั้น ๆ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นมุมมองในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีมุมมองหรือทัศนะที่ไม่เหมือนกัน เมื่อเข้าไปใช้บริการจะทำให้ผู้ใช้มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราคิดอาจมีทั้งผิดและถูก และสามารถวัดได้ว่าเราคิดอย่างหนึ่งที่คิดว่าถูกที่สุดแล้ว แต่ยังมีอีกกลุ่มคนในสังคมที่อาจไม่มีแนวคิดเช่นเราก็ได้

การให้บริการการหางานและสมัครงานผ่านอินเทอร์เน็ต

บนอินเทอร์เน็ตนั้นได้มีเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ ที่รับสมัครงานผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกที่จะสมัครได้ โดยมีการกรอกแบบฟอร์มการสมัครผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้จะต้องมี E-mail เพื่อที่จะให้บริษัทติดต่อกลับ ว่าได้หรือไม่ในการสมัครงานในครั้งนั้น การสมัครงาน บนอินเทอร์เน็ตมีข้อดีคือ ผู้สมัครไม่ต้องไปเดินสมัครงานทั้งวันแล้วได้งานเพียงหนึ่งที่หรือสองที่ แต่สามารถสมัครผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และยังสามารถสมัครได้หลายที่เพียงนั่งสมัครที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น

การให้บริการจัดหางานและสมัครงานบนอินเทอร์เน็ต

การให้บริการทางด้านความบันเทิง

การให้บริการทางด้านความบันเทิง สามารถหาได้หลากหลายบนอินเทอร์เน็ต โดยในแต่ละเว็บไซต์จะมีสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้ใช้บริการ หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้เข้าไปสัมผัส บางเว็บไซต์ก็เป็นเว็บที่ให้บริการด้านความบันเทิงโดยตรงก็มี ซึ่งการให้บริการบันเทิงบนอินเทอร์เน็ตได้แก่ การให้บริการหนังสือนิตยสารทางด้านแฟชั่นออนไลน์ การให้บริการดูหนังฟังเพลง การให้บริการเกมออนไลน์ การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีให้สำหรับความบันเทิงที่ไร้ขีดจำกัด บนอินเทอร์เน็ต

การ ให้บริการหนังสือนิตยสารทางด้านบันเทิงและแฟชั่นออนไลน

ผู้ใช้สามารถที่จะเข้าไปอ่านหนังสือ วารสาร หรือนิตยสารได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีบริษัทที่ผลิตสิ่งพิมพ์จำนวนมาก จัดทำนิตยสารออนไลน์ โดยมีเนื้อหาที่เป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ ไว้บริการแก่ผู้ใช้มากมาย

การให้บริการดูหนังฟังเพลง

บนอินเทอร์เน็ตนั้นผู้ใช้สามารถที่จะฟังเพลงจากสถานีวิทยุต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ และยังชมการถ่ายทอดโทรทัศน์ได้อีกด้วย แต่คุณภาพของเสียงที่ได้รับจะไม่เท่ากับปกติ ซึ่งในด้านคุณภาพจัดได้ว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ใช้บริการ

การให้บริการเกมออนไลน์

บนอินเทอร์เน็ตนั้นมีเว็บไซต์มากมายที่มีเกมให้บริการเล่นฟรี โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้สามารถเข้าไปเล่น หรือทดลองเล่นได้ หลังจากนั้นหากสนใจสามารถที่จะสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตได

การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น

การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่นนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับวัยรุ่นไว้ในเว็บไซต์ และมีการให้บริการต่าง ๆ มากมาย เช่น

การให้บริการส่งข้อมูลทางไกล ( TelNet )

TelNet เป็นบริการที่ผู้ใช้งานนั้นสามารถที่จะ login เพื่อใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการที่จะสั่งงานให้คอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป โดยการจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้ และสามารถที่จะสั่งให้โปรแกรมทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งได้โดยไม่ต้องทำงานประจำที่หน้าเครื่องนั้น โดยเหมือน กับผู้ใช้ได้เข้าไปใช้เครื่องนั้นเอง การให้บริการ TelNet มีประโยชน์มากสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในรูปแบบตัวอักษร โดยหน้าที่ของโปรแกรม TelNet ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการ Login เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่ต่อเชื่อมอยู่ในเครือข่ายได้ เมื่อเราทำการ login เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่าย จะใช้คำสั่ง Telnet เพื่อเข้าไป login เครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ได้ ต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรก เมื่อทำการ login ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ก็สามารถไปเรียกใช้บริการต่าง ๆ บนเครื่องเหล่านั้นได้ด้วย ในปัจจุบันนี้หากสมัครเป็น สมาชิกกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใดแล้ว จะได้รับรหัส ที่ใช้ในการ login เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายนั้น และถ้าต้องการที่จะเข้าไปทำการ login ต่อในเครื่อง อื่น ๆ ในเครือข่ายเราจะต้องใช้คำสั่ง TelNet โดยระบุชื่อที่อยู่ ของเครื่องปลายทางที่ต้องการจะทำการติดต่อ

การติดต่อสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ในการโอนย้ายข้อมูลระหว่างผู้ใช้โปรแกรม FTP กับ FTP Server ซึ่งกรณีในการใช้บริการการโอนย้ายข้อมูลมี 2 แบบ ดังน

1. การดาวน์โหลด ( Downloading ) เป็นการโอนย้ายข้อมูลจาก FTP Server มายังเครื่องของผู้ใช้งาน ต้องเดินทางไปขายสินค้าที่ต่างจังหวัด แต่ลืมเอกสารการขายมาด้วย ผู้ใช้สามารถที่จะนำรูปแบบบริการนี้เข้ามาใช้โดยทำการเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต และเข้าไปดึงข้อมูลหรือ ดาวน์โหลดข้อมูลที่เก็บไว้ที่เครื่อง Server มาใช้ในการทำงานโดยการขอเรียกใช้ข้อมูลผ่านโปรแกรม FTP เท่านี้ผู้ใช้ก็จะได้รับข้อมูลเพื่อเตรียมตัวในการขายได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไปสำนักงานที่กรุงเทพเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการทำงานในต่างจังหวัด

2. การอัพโหลด (Uploading ) เป็นการโอนย้ายข้อมูลจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ไปยัง FTP Server ซึ่งการใช้งานก็จะตรงกันข้ามกับการดาวน์โหลด แตกต่างกันตรงที่การอัฟโหลดนั้นเป็นการป้อนข้อมูลสู่ระบบเครือข่าย

การบริการโอนย้ายข้อมูลนี้มีประโยชน์ต่อการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่เสียเวลา และค่าใช้จ่าย เพราะโดยทั่วไปแล้วบนอินเทอร์เน็ตจะมีโปรแกรมการใช้งาน และเกมมากมายที่ผู้ใช้สามารถที่จะนำมาใช้ได้ ซึ่งมีตั้งแต่โปรแกรมประเภทฟรีแวร์ (Freeware) ที่สามารถนำมาใช้ได้ฟรี หรือโปรแกรมประเภทแชร์แวร์ (Shareware ) ที่ผู้ใช้สามารถนำมาทดลองใช้ก่อน แกละอื่น ๆ ให้เลือกที่จะดาวน์โหลดมากมาย

การให้บริการทางด้านธุรกิจ

การทำธุรกิจโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้การติดต่อสื่อสารในด้านการทำธุรกิจสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในภาคธุรกิจโดยทั่วไปหันมาทำการค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) กันมากขึ้น เพราะภาวะทางด้านการแข่งขันของโลกแห่งเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน

การให้บริการขายสินค้าในระบบ E-Commerce

การซื้อขายสินค้าในปัจจุบันผู้ใช้สามารถซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ในรูปแบบของ E-Commerce โดยสามารถที่จะเข้าไปเลือกพร้อมดูคุณสมบัติของสินค้าต่าง ๆ ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์